แคร็ปส์ (Craps) เป็นเกมลูกเต๋าที่ได้รับความนิยมอย่างมากในคาสิโนทั่วโลก และยังถือเป็นหนึ่งในเกมที่มีกลยุทธ์และเทคนิคการเล่นที่สนุกสนาน โดยมีการใช้ลูกเต๋าเป็นอุปกรณ์หลักในการเล่น ซึ่งทำให้ผู้เล่นได้สัมผัสกับบรรยากาศของการลุ้นโชคและการทายผลที่น่าตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง สำหรับนักพนันหลาย ๆ คน แคร็ปส์ถือเป็นเกมที่ให้โอกาสในการชนะที่หลากหลายด้วยตัวเลือกการเดิมพันที่น่าสนใจ ดังนั้น ในส่วนนี้จะมาแนะนำถึงที่มาของเกมแคร็ปส์และกติกาการเล่นในขั้นพื้นฐาน
ความเป็นมาของแคร็ปส์ (Craps)
เกมแคร็ปส์มีความเป็นมาที่ยาวนาน โดยต้นกำเนิดสามารถย้อนกลับไปได้ถึงยุคสมัยโรมันโบราณ ซึ่งเชื่อกันว่าทหารโรมันใช้กระดูกของสัตว์แทนลูกเต๋า และใช้โล่เป็นกระดานในการทอย ทำให้เกิดเกมเดิมพันที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับแคร็ปส์ในปัจจุบัน จากนั้นในยุคกลาง เกมนี้ได้พัฒนาต่อเนื่องในยุโรปและมีชื่อเรียกต่าง ๆ จนกระทั่งช่วงศตวรรษที่ 12 ชาวอังกฤษเรียกเกมนี้ว่า “Hazard” และเริ่มมีการตั้งกฎการเล่นที่เป็นระบบมากขึ้น
เมื่อเวลาผ่านไป เกม Hazard ได้เดินทางเข้าสู่ฝรั่งเศสและได้รับความนิยมในหมู่ชนชั้นสูง ต่อมาในศตวรรษที่ 18 เกมนี้ถูกนำไปยังทวีปอเมริกาโดยผู้อพยพชาวฝรั่งเศส ซึ่งได้มีการปรับปรุงกฎและเพิ่มความง่ายในการเล่น โดยชาวอเมริกันในรัฐนิวออร์ลีนส์ ได้ทำการเปลี่ยนแปลงกฎของเกม Hazard ใหม่ และตั้งชื่อว่า “Craps” ซึ่งกลายมาเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลกในเวลาต่อมา
กติกาและวิธีการเล่นแคร็ปส์เบื้องต้น
แคร็ปส์เป็นเกมที่เล่นกันบนโต๊ะที่มีอุปกรณ์หลักคือลูกเต๋าสองลูก โดยเกมนี้มีกติกาพื้นฐานที่เข้าใจง่าย แต่มีตัวเลือกการเดิมพันที่หลากหลาย โดยผู้เล่นจะทำการเดิมพันกับผลรวมของลูกเต๋าที่ทอยออกมา หลักการเล่นแคร็ปส์นั้นแบ่งออกเป็นสองช่วงคือ “Come Out Roll” และ “Point Roll” ซึ่งจะอธิบายได้ดังนี้
ช่วง Come Out Roll: ในช่วงนี้ ผู้เล่นที่ทอยลูกเต๋าจะเรียกว่า “Shooter” โดย Shooter จะทำการทอยลูกเต๋าในครั้งแรก เรียกว่า Come Out Roll และผู้เล่นที่เหลือจะสามารถวางเดิมพันบนผลของลูกเต๋าได้
ถ้าแต้มออกเป็น 7 หรือ 11 ผู้เล่นที่เดิมพันในช่อง “Pass Line” จะชนะ แต่ถ้าออกมาเป็น 2, 3 หรือ 12 จะถือว่าแพ้
หากออกแต้มอื่น เช่น 4, 5, 6, 8, 9, หรือ 10 ค่าที่ออกมานี้จะถูกกำหนดให้เป็น “Point” และเกมจะเข้าสู่ช่วง Point Roll
ช่วง Point Roll: Shooter จะทอยลูกเต๋าต่อไปจนกว่าจะออกเป็นเลข 7 หรือแต้ม Point ที่ถูกกำหนดไว้ใน Come Out Roll หากออกแต้ม Point ผู้ที่เดิมพัน Pass Line จะชนะ แต่หากออก 7 ก่อนจะถือว่าแพ้ และเกมจะเริ่มใหม่
ในแคร็ปส์ ผู้เล่นสามารถเลือกวางเดิมพันในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งทำให้เกมนี้มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ตัวอย่างการเดิมพันที่พบบ่อย ได้แก่
Pass Line Bet: เป็นการเดิมพันพื้นฐานที่วางบนผลการทอยลูกเต๋าครั้งแรก ผู้เล่นจะชนะถ้าออก 7 หรือ 11 ในครั้งแรก
Don’t Pass Line Bet: เป็นการเดิมพันตรงข้ามกับ Pass Line Bet ผู้เล่นจะชนะถ้าออก 2 หรือ 3 และแพ้หากออก 7 หรือ 11
Come Bet และ Don’t Come Bet: เป็นการเดิมพันที่เกิดขึ้นหลังจากกำหนด Point แล้ว โดยจะมีหลักการเหมือนกับ Pass Line และ Don’t Pass แต่เริ่มต้นจากการทอยลูกเต๋าครั้งถัดไป
การเดิมพันแบบอื่น ๆ ยังมีอีกมากมาย ซึ่งสามารถเพิ่มสีสันและความสนุกให้กับการเล่นแคร็ปส์ได้อย่างดี เช่น การเดิมพันแบบ Place Bets, Field Bets, Big 6 และ Big 8 เป็นต้น นักพนันสามารถเลือกใช้กลยุทธ์และวิธีเดิมพันที่เหมาะสมกับตัวเองเพื่อเพิ่มโอกาสในการชนะได้ตามความต้องการของแต่ละคน
นอกจากการเดิมพันแบบพื้นฐานแล้ว แคร็ปส์ยังมีการเดิมพันเพิ่มเติมที่ทำให้เกมมีความท้าทายและสนุกมากขึ้น โดยการเดิมพันแต่ละประเภทนั้นให้ผลตอบแทนที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งจะทำให้ผู้เล่นสามารถใช้กลยุทธ์ที่หลากหลายในการวางแผนการเล่น ในส่วนนี้จะอธิบายถึงการเดิมพันและกลยุทธ์ที่นิยมใช้ในแคร็ปส์ รวมถึงประโยชน์และข้อเสียของการเดิมพันแต่ละประเภท
การเดิมพันแบบต่าง ๆ ในแคร็ปส์
Place Bets: เป็นการเดิมพันที่วางไว้บนตัวเลขใด ๆ จาก 4, 5, 6, 8, 9 หรือ 10 ผู้เล่นจะชนะหากผลรวมของลูกเต๋าออกเป็นตัวเลขนั้นก่อนที่จะออก 7
Field Bets: เป็นการเดิมพันที่วางบนเลข 2, 3, 4, 9, 10, 11 หรือ 12 หากเลขที่ออกมาตรงกับตัวเลขที่วางเดิมพันไว้ ผู้เล่นจะชนะ แต่ถ้าออกเลขอื่นจะเสียเดิมพัน
Big 6 และ Big 8: เป็นการเดิมพันที่เลข 6 หรือ 8 จะออกมาก่อนที่จะออก 7 โดยผู้เล่นจะวางเงินเดิมพันในช่อง Big 6 หรือ Big 8 ตามต้องการ
Proposition Bets: เป็นการเดิมพันที่คาดเดาผลของการทอยครั้งถัดไปเท่านั้น เช่น การเดิมพันว่าออกเลขคู่หรือคี่ การเดิมพันนี้มีความเสี่ยงสูง แต่ให้ผลตอบแทนที่สูงเช่นกัน
กลยุทธ์ที่นิยมใช้ในแคร็ปส์
การจัดการเงินทุน: การจัดการเงินทุนเป็นสิ่งที่สำคัญในแคร็ปส์ เพราะช่วยให้ผู้เล่นสามารถควบคุมความเสี่ยงและรักษาผลกำไร การวางแผนการเดิมพันและการตั้งขีดจำกัดการเสียเงินจะช่วยป้องกันไม่ให้สูญเสียเงินมากเกินไป
กลยุทธ์ Pass Line และ Come Bets: การเดิมพันใน Pass Line และ Come Bets เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมในแคร็ปส์ เพราะมีโอกาสชนะสูงกว่าเดิมพันประเภทอื่น ๆ เนื่องจากกติกาของเกมกำหนดให้ Pass Line มีโอกาสชนะเมื่อออก 7 หรือ 11 ในการทอยครั้งแรก
การใช้ Don’t Pass Line และ Don’t Come Bets เพื่อความปลอดภัย: สำหรับผู้เล่นที่ต้องการลดความเสี่ยง การเดิมพันใน Don’t Pass Line และ Don’t Come Bets เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะมีโอกาสชนะสูงกว่าการเดิมพัน Pass Line ในบางกรณี
ข้อดีและข้อเสียของแคร็ปส์
การเล่นแคร็ปส์มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่ผู้เล่นควรพิจารณาก่อนที่จะเริ่มต้น
ข้อดี: แคร็ปส์เป็นเกมที่มีความหลากหลายในการวางเดิมพัน ทำให้ผู้เล่นมีอิสระในการเลือกเดิมพันตามความชอบและกลยุทธ์ที่เหมาะสม นอกจากนี้ แคร็ปส์ยังเป็นเกมที่ใช้เวลาไม่นานในแต่ละรอบ จึงทำให้สามารถเล่นได้อย่างต่อเนื่องและไม่ทำให้เบื่อ
ข้อเสีย: สำหรับผู้เล่นมือใหม่ แคร็ปส์อาจจะเป็นเกมที่มีกติกายุ่งยากและต้องใช้เวลาในการ